วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2550

lancer-fstyle4g92: ECU พัง ซ่อมได้หรือเปลี่ยนใหม่ดี

lancer-fstyle4g92: ECU พัง ซ่อมได้หรือเปลี่ยนใหม่ดี

lancer-fstyle4g92: อาการสตาร์ทยากและเดินเบาไม่ได้

lancer-fstyle4g92: อาการสตาร์ทยากและเดินเบาไม่ได้

lancer-fstyle4g92: Mitsubishi Lancer CK4 F-style - 4G92 engine

lancer-fstyle4g92: Mitsubishi Lancer CK4 F-style - 4G92 engine

ECU พัง ซ่อมได้หรือเปลี่ยนใหม่ดี

หลังจากที่เปลี่ยน เสตปมอเตอร์แล้วอาการเดินเบาไม่ได้ก็ยังไม่หาย เอาเครื่องที่ศูนย์เช็คดูก็ฟ้องแต่ เสตป ไม่นิ่ง หัวฉีดเสีย พอรีเซตก็หายแต่อาการสั่น หรือเดินเบาไม่ได้ก็ยังเป็นอยู่ เลยให้ช่างเช็ค ดูว่ากล่อง ECU เสียหรือเปล่า พอแกะดู แกะง่ายมากครับ รุ่นนี้ ECU จะอยู่แถวๆใต้ กล่องเก็บของ ปรากฏว่าชิพบางตัว มีรอยไหม้ เห็นไหม เกือบเปลี่ยนหัวฉีดใหม่แล้ว หลายตังค์ครับ หัวละเกือบ สองหมื่น ช่างที่ศูนย์บอกว่าต้องเปลี่ยนใหม่ ราคาเท่าไหร่ละ ประมาณ2-3 หมื่นนี่แหละครับ ตาลายเลย นึกขึ้นได้ว่าเขาซ่อมกันได้ เลยเอาไปที่ร้าน ของพี่อรัญ แถวุบางรักเข้าตรงวัดหัวลำโพง ให้ซ่อม ซึ่ง ECU ของรถหรือเครื่องแต่ละรุ่นจะมีเบอร์แตกต่างกันสำหรับ F style 4G92 ใช้เบอร์ MR507191 ซึ่ง ECU ของผม ชุดชิพที่ควบคุมการจ่ายนำมันไหม้ ช่างบอกมา หากจะซ่อมก็นาน ซึ่งในร้านเขามี อยู่ 1ตัวพอดี แต่ก็ไม่ชัวร์ว่าจะใช้ได้หนือเปล่า ซึ่งทางพี่อรัญเองบอกว่าจะดีมากหากนำรถมาลองเลย แต่รถผมอยู่ศูนย์วิภาวดี เจ้าของร้านใจถึงครับ พาขี่มอเตอร์ไซด์ มาลองใส่ที่ศูนย์ฯ ปรากฎ ว่ามันไม่เวิร์คครับ เปลี่ยน ECU ใหม่และยังเดินเบาไม่ได้ เริ่มเช็งครับ ช่างศูฯย์มิตซู คุณสุเทพ เลยลองยืมแอร์โฟลว์ ของเพื่อนร่วมสายโลหิตที่มาซ่อมจอดอยู่ข้างกัน เปลี่ยนดูเพราะเดาว่า Air Flow น่าจะเสีย ปรากฎว่ามันเวิร์คๆ เดินเบาปกติดี จ่ายค่า ECU ไป 5พันกว่าบาทรุ่นนี้หาของมือสองยากหน่อย ซึ่งหากไม่อยากให้ เสียเงินมากขนาดนี้ ต้องคอยสังเกตหากมีอาการสตาร์ทติดยาก เดินเบาไม่ได้เปิดแอร์แล้วเครื่องสั่น ต้องรีบหยุดใช้รถ อย่าฝืนแล้วเอารถไปให้เขาเช็ค่ว่าแอร์โฟล เสตปมอเตอร์ อีซียู เสียไหม เพราะปกติชิ้นส่วนอื่นจะเสียก่อน อีซียู (หากใช้ปกติไม่ได้ต่อสายไฟมั่ว) ซึ่งหากฝืนใช้นานเข้า อีซียู ก็จะพังครับ แล้วค่อยมาดูความยากลำบากในการเดินหา Air Flow มือสองของผม ว่าเดินมากี่เชียงกง ที่ทำเพราะสู้ราคาของใหม่ไม่ไหว เกือบขายรถทิ้งแล้วเชียว....

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2550

อาการสตาร์ทยากและเดินเบาไม่ได้




หลายๆท่านที่ใช้รุ่นนี้ มานานๆสัก 3-4 ปี อาจจะเจอปัญหานี้คือสตาร์ทติดยาก บางทีสตาร์ทติดแล้วเครื่องก็สั่นเป็นเจ้าเข้า ต้องเหยียบคันเร่งช่วย พอเปิดแอร์รอบเครื่องที่ตั้งไว้ 800-900 รอบก็ตกลงมาอยู่ประมาณ 300 -500 รอบหรืออาจดับไปเลย ปกติจะต้องสวิงขึ้น 1000-1200 รอบแล้วค่อยตกลงมาเมื่อแอร์ตัด หรือเมือขับในท้องถนนหากจอดติดไฟแดงหรือเวลาเลี้ยวตรงทางแยกเมื่อเบาเครื่องก็จะดับไปก็มี อันนี้ผมเจอกับตัวเองครับ ซ่อมหมดไปหลายหมื่น จะหลายหมื่นเพราะอะไรลองอ่านดูครับหากท่านใช้รุ่นเดียวกันกับผมจะได้ประโยชน์มาก และจะได้ซ่อมถูกจุด ผมเขียนบล็อกมาเพื่อแนะแนวทางเท่านั้น


บทความที่แล้วเป็นภาษาอังกฤษ ผมค้นข้อมูลรายละเอียดและหน้าที่ของชิ้นส่วนต่างๆ


หากรถท่านพึ่งเจอปัญหาไม่หนักมากคือสตาร์ทง่ายแต่เดินเบาไม่นิ่งสดุดรอบตกบ้างบางครั้ง ปัญหานี้จะเกิดจากมอเตอร์เดินเบาหรือเสต็บมอเตอร์(ISC)สกปรกหรือเสีย ให้ท่านเอารถไปให้ช่างในศูนย์ดีที่สุด เช็ค อันนี้ต้องเลือกศูนย์เองผมใช้ศูนย์มิตซูฯวิภาวดีเพราะปัญหาของผมจบที่นี่(เคยผ่านมาหลายศูนย์เจอแต่ช่างมั่วโทษแกสอย่างเดียวเผอิญรถผมติดแกส)ลองให้เขาเช็คว่ามอเตอร์เสียหรือไม่หากไม่เสียให้ล้างมอเตอร์ล้างชุดลิ้นปีกผีเสื้อฉีดนำมันหล่อลื่นแลว้ประกอบกลับหากใช้งานได้ปกติใช้เครื่องMUTวัดstepได้ปกติ ถือว่าผ่าน แต่ถ้าเสียต้องเปลี่ยนใหม่ สังเกตอาการเสียง่ายๆเลย(พี่ป็อกบางบัวทอง ตั้งให้เองนะเนี่ย บอกมา) กันช่างอำ ยุให้เปลี่ยน ลองให้เขาเสียบขั้วไฟตรงมอเตอร์แล้วเปิดสวิสต์กุญแจสังเกตดูว่ามันชักเข้าออกหรือไม่หากไม่ชักเข้า-ออกแสดงว่าน่าจะเสียเพราะการทำงานของมอเตอร์คือชักเข้า-ออกเพื่อเปิดปิดรูอากาศตรงลิ้นปีกผีเสื้อ หากจะให้แน่ต้องเอามิเตอร์วัดไฟมาวัดปกติมอเตอร์ตัวนี้จะมีชุดขดลด 3หรือ4ชุดนี่แหละจำไม่ได้ หากวัดแล้วขาดไปชุดใดชุดหนึ่งก็ใช้ไม่ได้แล้ว อย่าลืมให้เขาเช็คกล่องด้วยว่าปกติหรือเปล่าอย่าเช็คการทำงานขอเสต็บมอเตอร์อย่างเดียว และท่านที่มีปัญหาหนักขึ้นคือเปิดแอร์แล้วรอบตก F style รุ่นนี้อย่าได้คิดที่จะไปแปลงระบบอื่นเพื่อประหยัดตังค์แทนการเปลี่ยนมอเตอร์ เช่นใช้การแปลงชุดวาล์วชดเชยรอบเดินเบาของTOYOTAมาใส่ ผมบอกได้เลยว่าใม่ได้ผลหรอกอาจใช้ได้สักพักก็เสียอีก เสียตังค์ไปตั้ง 1800แนะ ผมแนะนำว่า ถ้า ISC (Idle Speed Control.)หรือมอเตอร์เดินเบาเสียควรเปลี่ยนราคาของใหม่น่าจะประมาณ 7500-8000 บาทถ้าซื้อจากร้านอะไหล่ จากศูนย์ประมาณ 9000 บาท แนะนำว่าซื้อจากร้านอะไหล่ ไปให้ศูนย์เปลี่ยนดีกว่าถูกดี และศุนย์มักไม่สต็อกอะไหล่ตัวนี้ การซื้อถ้าง่ายก็เอาตัวเก่าไปเทียบ ถอดน็อตพียง 3ตัวเพราะแต่ละรุ่นแต่ละปีมิตซูทำอะไหล่ไม่เหมือนกัน บางทีเครื่องรุ่นเดียวกันออกคนละปี ปลั๊กต่อก็ไม่เหมือนกัน หากจะหาของเก่าเชียงกงก็พอหาได้ หาเองอาจอู่ที่ 2500-3500 บาท ผ่านคนอื่นหาให้ก็ประมาณ 5000 - 5500 บาท ของนอกไม่ค่อยมี มักได้จากรถในที่ชนหนัก แล้วถอดอะไหล่ซากขาย ได้มาแล้วไม่รู้ว่าจะใช้ได้นานหรือไม่ ผมว่าเปลี่ยนใหม่ดีกว่า หากอยากได้ผมมีอยู่ 1ตัวยังใช้ได้ตอนนั้นซื้อของเก่ามาจากคนจัดหาอีกที แต่รถผมเสียหลายอย่างต้องการให้ดีที่สุดเลยเปลี่ยนไปใช้ของใหม่หมดเพื่อที่ว่าหากมันหายไม่จริงจากการซ่อมจะได้โทษศูนย์เต็มๆ ยังมีอาการเสียของ ECU ,Airflow,เพลาขับ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่เกิดจาประสบการตรงเขียนมาเล่าวิธีการสังเกตอาการ การซ่อมแหล่งหาอะไหล่ ลองติดตามอานได้ครับที่บล็อกนี้ วันนี้แค่นี้ก่อนครับ